อินโดนีเซียฉีดวัคซีนไก่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีก 4,000 ล้านดอลล่าร์เพื่อสำรองยาต้านไวรัสไข้หวัดนก

อีกด้านหนึ่ง สหรัฐเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากแปดสิบประเทศที่กรุงวอชิงตันเพื่อหาทางกำหนดแนวทางรับมือหากมีการระบาดของไข้หวัดนก

เชื้อไวรัส เอชห้าเอ็นหนึ่งคร่าชีวิตคนในเอเชียตะวันออกไปแล้ว 60 คน

นายไมเคิล เลวิตต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐ กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศต่างๆ ยังเตรียมการไม่พร้อมหากเกิดการระบาดขึ้น

เจรจา

	ขณะนี้มีความกังวลสูงว่าเชื้ออาจจะกลายพันธ์ทำให้แพร่จากคนสู่คนได้

วันนี้ นายเลวิตต์และคณะจะออกเดินทางไปหลายประเทศในเอเชียที่มีการระบาดของไข้หวัดนก เริ่มต้นที่ประเทศไทย

รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐพูดถึงเป้าหมายของการหารือกับประเทศต่างๆ ว่าจะเน้นไปที่ความโปร่งใสด้านข้อมูลและการประสานงาน

" การหารือกับผู้นำประเทศและรัฐมนตรีสาธารณสุขจะเน้นไปที่ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลและการประสานงาน เพื่อหาทางจำกัดการระบาดให้ได้หากเกิดขึ้นจริง " นายเลวิตต์กล่าว

นายแพทย์คำนวน อึ้งชูศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งร่วมการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่กรุงวอชิงตันด้วย บอกกับบีบีซี ว่าที่ประชุมมีความกังวลว่าประเทศต่างๆ จะไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างโปร่งใส

" ที่ผ่านมาอาจจะมีข้อกังวลว่าการเปิดเผยสถานการณ์ จะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว "

" ที่ประชุมพิจารณาเรื่องนี้ และมีข้อเสนอว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเปิดเผยข้อมูล ประเทศนั้นน่าจะได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วย ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นก็คือจะได้รับการสนับสนุนด้านการเงินและความช่วยเหลือด้านต่างๆ "

แต่เงินและความช่วยเหลือจะมาจากไหนนั้น นายแพทย์คำนวนกล่าวว่า ที่ประชุมจะพยายามเน้นว่าที่ผ่านมา การจัดการปัญหาไข้หวัดนกไปไม่ถึงระดับสูงสุด คือระดับผู้นำทั่วโลก ทำให้การสนับสนุนด้านนโยบายและทรัพยากรติดขัด

สนับสนุน

ที่ประชุมมีข้อเสนอหลายอย่างที่เป็นรูปธรรม แต่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน เช่นมีข้อเสนอให้บริจาคยาไปช่วยประเทศที่มีทรัพยากรน้อย กรณีเกิดการระบาดในคน

" ผมคิดว่าสำหรับประเทศที่เผชิญปัญหามากๆ ความเคลื่อนไหวแบบนี้มีประโยชน์ "

" ในอดีต เมื่อประเทศในกลุ่มเอเชียเกิดปัญหา จะเป็นลักษณะถูกจับตามอง ไม่มีการเคลื่อนไหวที่เป็นการสนับสนุน ครั้งนี้เปลี่ยนจากการถูกจับตามองมาเป็นการร่วมหัวจมท้ายกัน " ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยาของไทยกล่าว

จากรายการภาคเช้าวันที่ 8 ตุลาคม 2548