(15 เม.ย.49) พลตำรวจตรีสุวีระ ทรงเมตตา ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ประชาชนสามารถใช้เส้นทางปกติในการเดินทางกลับจากภูมิลำเนาเข้ากรุงเทพมหานครได้ แต่แนะนำให้วางแผนการเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครก่อนเวลา 14.00 น. เพื่อเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัด เพราะปริมาณรถจะเริ่มหนาแน่นขึ้นหลังเวลา 14.00 น. จนถึงเวลากลางคืน แม้ตำรวจทางหลวงจะเพิ่มพื้นที่จราจรแล้วแต่ก็ไม่เพียงพอต่อปริมาณรถ
ส่วนการดูแลความปลอดภัย ตำรวจทางหลวง ได้เพิ่มมาตรการดูแลอย่างเข้มข้นทั้งกำลังคน และอุปกรณ์ โดยเฉพาะบนเส้นทางเดินรถที่เปิดสวนกระแส ทั้งนี้ สถิติการเกิดอุบัติเหตุโดยรวมบนเส้นทางหลวงลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ร้อยละ 33 เสียชีวิตลดลงร้อยละ 11 และบาดเจ็บลดลงร้อยละ 15 ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะ ประมาณร้อยละ 29 รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 28 รถเก๋ง ร้อยละ 19 และรถโดยสารร้อยละ 6 สาเหตุอันดับหนึ่งเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด รองลงมาเป็นหลับใน และเมาแล้วขับ ซึ่งตำรวจทางหลวง ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับความเร็วเกินกฎหมายกำหนด โดยใช้กล้องตรวจจับ และส่งใบสั่งให้ถึงบ้าน โดยขณะนี้ได้ออกใบสั่งไปแล้วมากกว่า 16,000 ราย
ส่วนการหลับในนั้น ได้จัดตั้งหน่วยบริการตำรวจทางหลวงไว้ให้บริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ หมากฝรั่งแก้ง่วงแก่ผู้ขับขี่ยานยนต์ ซึ่งมีประชาชนแวะใช้บริการแล้วกว่า 50,000 คน นอกจากนี้ ในกรณีที่รถขัดข้องประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้ที่หมายเลขสายด่วน 1193 โดยตำรวจทางหลวง ได้ให้บริการซ่อมรถแก่ประชาชนไปแล้วประมาณ 800 ราย ส่วนปัญหาการเมาสุราแล้วขับรถนั้น ได้กระจายเครื่องตรวจจับไปกว่า 300 เครื่องทั่วประเทศ
สำหรับถนนที่ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร คือ สายใต้ และสายเหนือ ซึ่งเป็นเส้นทางการท่องเที่ยว และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาจำนวนมาก